สภาพป่าไม้
บ้านตับเต่ามีสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์
อีกทั้งยังมีดอนปู่ตาภายในหมู่บ้านซึ่งติดกับวัดดอนปู่ตาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนในหมู่บ้านที่ไว้เคารพบูชา
ป่าไม้ในดอนปู่ตาจะเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้คนไปทำลาย
ดังนั้นดอนปู่ตาจึงมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์
>>>>ป่าดอนปู่ตา เป็นที่สาธารณประโยชน์ มีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นทั่วไป ซึ่งเป็นสัญลักษณ์
ที่บอกถึงอาณาบริเวณป่า มีการสร้างศาลพระภูมิ เชิญผีเจ้าที่เจ้าทางมาอยู่ในศาล เพื่อช่วยในการ ปกปักรักษาคนในบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข การเลือกทำเลที่ตั้งดอนปู่ตาชาวบ้านจะพิจารณาหาที่ดิน
ว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดถือครอง เป็นที่สาธารณะ เป็นที่ดินน้ำท่วมไม่ถึง มีต้นไม้ใหญ่อายุหลายสิบปี เมื่อได้แล้วชาวบ้านจะมาประชุมตกลงร่วมกันทำพิธีตั้งศาลปู่ตาหรือที่เรียกว่า “ตูบ” ไว้ในบริเวณ
ต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา และประกาศเป็นเขตดอนปู่ตา ดยใช้วัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ เข้ามาควบคุม ในบริเวณป่าดอนปู่ตาจึงเป็นเขตแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ใครจะเข้าไปบุกรุกที่ดิน ตัดไม้หรือทำการล่าสัตว์ไม่ได้ เป็นการลบหลู่ปู่ตา และเชื่อกันว่า ใครจะละเมิดจะมีอันเป็นไป โดยล้มเจ็บหรือแม้กระทั่งเสียชีวิต ดอนปู่ตาในทัศนะของชาวบ้านมิได้เป็นเพียงแหล่งอาหาร หรือที่อยู่อาศัยของสัตว์ พืช และแหล่งต้นน้ำลำธารเท่านั้น แต่ยังเป็นอาณาเขตของสัตว์ป่า ผี และอำนาจเหนือมนุษย์ เมื่อคน ต้องเข้าไปพึ่งป่าจึงถือเสมือนว่าไปให้ผีเลี้ยง ดังนั้น การบุกเบิกที่ดินทำกินและ
สร้างชุมชนในป่า จึงต้องมีการขออนุญาตจากผีเจ้าป่าเขาเสียก่อน และต้องทำไปเพื่อเพียงพอแก่การ ยังชีพเท่านั้น ด้วยความเชื่อในเรื่องศักดิ์สิทธิ์ หรือผีที่คอยคุ้มครองดูแลรักษาป่าเขา ก่อรูปเป็นระบบ การพึ่งพาอาศัย กันระหว่างคนกับป่า ที่แสดงออกมาในรูปของพิธีกรรมและความเชื่อต่าง ๆ เช่น ชาวบ้านได้อาศัย
สายน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตและการดำรงชีพของมนุษย์ ชุมชนแสดงออก ด้วยการทำพิธี บวงสรวงผีขุนน้ำ และดูแลรักษาป่าต้นน้ำ อันเป็นที่อยู่ของผีขุนน้ำทุกปี เพื่อแสดงความ กตัญญู หรือการเซ่นไหว้ดอนปู่ตา เพื่อความเป็นสิริมงคลของสมาชิกในชุมชน
No comments:
Post a Comment